การล้างแอร์เองเป็นสิ่งที่ทำยากและค่อนข้างลำบากพอสมควร แต่ขั้นตอนการล้างแอร์จะง่ายยิ่งขึ้นหากมี ผ้าใบ ล้างแอร์ ที่จะมาอำนวยความสะดวกสบายให้กับคุณ เพราะสิ่งนี้จะเป็นตัวช่วยในการป้องกันน้ำกระเด็น พร้อมทั้งยังสะดวกต่อการระบายน้ำทิ้งอีกด้วย จึงเหมาะกับช่างมืออาชีพหรือผู้ที่ต้องการล้างแอร์ด้วยตัวเอง แต่การเลือกใช้ผ้าใบจะต้องดูจากหลายปัจจัยเพื่อให้ถูกต้องเหมาะสมกับการใช้งาน ซึ่งจะมีวิธีการเลือกอย่างไรบ้างนั้น ตามมาดูรายละเอียดกันเลย
1. เลือกจากรูปแบบของผ้าใบ
• แบบถุงหรือแบบกรวย ถือเป็น ผ้าใบ ล้างแอร์ อเนกประสงค์เลยก็ว่าได้ เพราะสามารถใช้ล้างแอร์ได้ทุกประเภท มีขนาดที่ใหญ่และก็ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญในการใช้งานพอสมควร เมื่อใช้งานเสร็จแล้วก็จำเป็นต้องใช้พื้นที่กว้างในการผึ่งผ้าใบให้แห้ง จึงเหมาะสำหรับบ้านที่มีแอร์หลายตัว โดยผ้าใบประเภทนี้ช่างล้างแอร์มืออาชีพนิยมใช้กันมากที่สุด เนื่องจากสามารถใช้งานได้อย่างครอบคลุม ทั้งแอร์แบบติดผนัง แอร์แบบแขวน หรือจะเป็นแอร์แบบ 4 ทิศทางก็สามารถใช้งานได้หมดเลย
• แบบครอบ สำหรับใครที่เป็นมือใหม่และต้องการความสะดวกสบายในการล้างแอร์ ขอแนะนำให้ลองใช้ ผ้าใบ ล้างแอร์ แบบครอบ ซึ่งถูกพัฒนามาจากผ้าใบแบบกรวย แต่มีขนาดเล็กพกพาง่ายกว่า แถมไม่ต้องใช้พื้นที่มากเลยและยังมีราคาที่ย่อมเยากว่าด้วย โดยผ้าใบประเภทนี้จะมีรูปทรงตามลักษณะของแอร์ เมื่อนำไปครอบกับคอยล์เย็นให้ดึงสายรัดที่ปากผ้าใบไว้เพื่อป้องกันน้ำกระเด็น
• แบบมีโครง เป็นอีกหนึ่งความสะดวกในการล้างแอร์ เนื่องด้วยโครงสร้างที่ทำมาจากเหล็กหรืออะลูมิเนียม จึงทำให้ผ้าใบประเภทนี้ให้ความสะดวกสบายที่สุด เพราะเพียงแค่กางออกแล้วนำไปครอบกับแอร์ และสามารถทำการล้างแอร์ได้เลย แต่ก็มีข้อเสียตรงที่มีความยุ่งยากในตอนพับเก็บ เนื่องจากลักษณะโครงเหล็กหรืออะลูมิเนียมทำให้ต้องใช้พื้นที่ในการจัดเก็บ แถมยังมีน้ำหนักมากจึงไม่เหมาะที่จะพกพาหรือนำไปใช้งานนอกสถานที่
2. เลือกให้เหมาะกับส่วนประกอบของแอร์
• ผ้าใบ ล้างแอร์ สำหรับคอยล์เย็น ( Indoor unit ) แอร์แต่ละประเภทจะมีโครงสร้างของคอยล์เย็นแตกต่างกันออกไป โดยส่วนนี้จะเป็นอุปกรณ์ที่ต้องติดตั้งภายในห้องเพื่อทำหน้าที่ให้ความเย็น และเนื่องจากส่วนนี้เป็นส่วนที่ถูกติดตั้งอยู่ภายใน จึงจำเป็นต้องมีผ้าใบใช้ในการล้างแอร์ทุกครั้ง ซึ่งควรเลือกใช้ผ้าใบแบบที่มีการเคลือบกันสารเคมีไว้ด้วย เพราะในการล้างคอยล์เย็นมักจะล้างด้วยน้ำยาล้างแอร์ที่เป็นสารเคมีนั่นเอง
• ผ้าใบ ล้างแอร์ สำหรับคอยล์ร้อน ( Outdoor unit ) โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะถูกติดตั้งอยู่ภายนอกอาคารและมีหน้าที่ในการระบายความร้อน จึงต้องใช้ผ้าใบสำหรับล้างคอยล์ร้อนแบบที่มีความทนทานมากเป็นพิเศษ และมีขนาดใหญ่พอที่จะครอบตัวคอยล์ร้อนได้อย่างมิดชิด
3. เลือกที่ผลิตจาก Silver Coat หรือไนลอน
สิ่งที่ไม่ควรละเลยในการล้างแอร์แต่ละครั้ง นั่นก็คือคุณสมบัติของวัสดุที่ใช้ผลิต ผ้าใบ ล้างแอร์ หากต้องการให้ผ้าใบมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ขอแนะนำให้เลือกที่ผลิตจากวัสดุอย่าง Silver Coat หรือผ้าใบ UV ซึ่งวัสดุเหล่านี้จะมีคุณสมบัติเด่นในด้านความแข็งแรงทนทาน ไม่ขาดง่าย ทั้งยังสามารถกันน้ำได้ดี เหมาะมากๆ ในการใช้ล้างแอร์ด้วยน้ำแรงดันสูง
แต่ผ้าใบที่ผลิตจาก Silver Coat อาจไม่ค่อยถูกกับสารเคมีหรือน้ำยาล้างแอร์สักเท่าไหร่นัก เพราะสารเหล่านี้จะทำลายผ้าใบได้ หากต้องการล้างแอร์ด้วยน้ำยาล้างหรือสารเคมี แนะนำให้เลือกใช้ผ้าใบที่ผลิตจากไนลอน ซึ่งจะมีความหนาเป็นพิเศษ ไม่รั่วซึมง่าย อีกทั้งยังมีการเคลือบกันน้ำด้านใน ทำให้สามารถกันน้ำและทนทานต่อสารเคมีได้ดีกว่าแบบแรก
4. เลือกให้เหมาะกับขนาดและประเภทของแอร์
นอกจากการเลือกผ้าใบจากวัสดุที่ใช้ผลิตแล้ว ก็ต้องเลือก ผ้าใบ ล้างแอร์ ที่มีความเหมาะสมกับขนาดของ BTU ซึ่งขอแนะนำว่าควรตรวจสอบแอร์ที่จะล้างก่อนว่ามีขนาดกี่ BTU เพื่อจะได้เลือกซื้อผ้าใบมาล้างแอร์ให้มีขนาดที่ถูกต้องและเหมาะสม
สุดท้ายประเภทของแอร์ก็สำคัญเช่นกัน โดยทั่วไปแล้วแอร์จะมี 4 ประเภทหลักๆ คือ แอร์ติดผนัง, แอร์แบบตั้ง, แอร์แบบแขวน และแอร์ฝังติดเพดาน ซึ่งผู้ผลิตผ้าใบใช้ล้างแอร์จะออกแบบให้มีขนาดเหมาะกับประเภทของแอร์ ทั้งนี้ก็เพื่อความสะดวกในการใช้งานนั่นเอง และมักจะมีระบุไว้ในคุณสมบัติของผ้าใบ ดังนั้นผู้ซื้อจึงสามารถเลือกดูได้ก่อนที่จะตัดสินใจ
และนี่ก็คือการเลือกใช้ ผ้าใบ ล้างแอร์ โดยคุณสามารถเลือกได้หลายวิธีตามที่เราได้อธิบายไปข้างต้น แน่นอนว่าการใช้ผ้าใบนั้นมีประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะสร้างความสะดวกสบาย ใช้งานง่าย ไม่ต้องทำหลายขั้นตอน อีกทั้งยังไม่ต้องมาคอยกังวลในเรื่องของความสกปรกอีกด้วย ดังนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีผ้าใบเป็นองค์ประกอบ เพื่อให้ขึ้นตอนการล้างแอร์ด้วยตัวเองนั้นง่ายขึ้นและสมบูรณ์แบบที่สุด
รูปภาพประกอบ : monacomz.com
รูปภาพประกอบ : sawadeekhrup.com
รูปภาพประกอบ : my-best.in.th
อ่านต่อที่ แอร์ติดผนัง