สำหรับบ้านทุกบ้านที่มีแอร์ เรามักจะรู้จักหรือคุ้นชินกับแอร์ที่อยู่ในห้อง ที่ทำหน้าที่ส่งลมเย็นออกมา และหลายๆ คนอาจจะไม่ค่อยรู้จัก หรือทำความเข้าใจกับ คอมเพรสเซอร์แอร์ ที่ติดตั้งอยู่ด้านนอกห้อง วันนี้ เราจะมาทำความรู้จักเพิ่มเติมว่า อุปกรณ์ตัวนี้คืออะไร ทำหน้าที่อะไร แล้วทำไมถึงต้องมีคอมเพรสเซอร์แอร์ด้วย เพราะหากคุณเข้าใจถึงความหมาย และหน้าที่ความสำคัญ ก็จะช่วยทำให้คุณสามารถที่จะดูแลรักษาแอร์ได้อย่างถูกวิธีมากขึ้นกว่าเดิม จะช่วยให้ประหยัดไฟ ทำให้แอร์ทำงานได้ดี หรือหมดปัญหาแอร์ไม่เย็นได้
คอมเพรสเซอร์แอร์ คืออะไร ทำหน้าที่อะไร
คอมเพรสเซอร์แอร์ เป็นอุปกรณ์สำคัญในระบบการทำความเย็น ที่ทำหน้าที่ร่วมกับส่วนที่ปล่อยลมเย็น ซึ่งเราอาจจะเรียกมันว่าเป็น เครื่องอัดไอ หน้าที่ของคอมเพรสเซอร์แอร์ คือ จะดูดและอัดสารทำความเย็น โดยจะต้องมีกระบวนการอัดอากาศจากขดลวด จากนั้น การบีบอัดอากาศจะถูกส่งผ่านไปยังอุปกรณ์ตัวต่อไป เพื่อเปลี่ยนลมร้อนจากอากาศภายนอกให้กลายเป็นลมเย็น ตามที่ตั้งค่าอุณหภูมิเอาไว้บนรีโมทแอร์ของเรา
การทำงานของคอมเพรสเซอร์แอร์ จะทำให้เกิดการกลั่นตัวเป็นของเหลว เพื่อที่จะระบายความร้อนออกจากสารทำความเย็น และ ของเหลวที่เกิดขึ้นก็จะถูกระบายออกไปยังสภาวะแวดล้อมด้านนอก หรืออาจจะกล่าวได้ว่า ระบบการทำความเย็นในแอร์หรือเครื่องปรับอากาศ จะเป็นระบบการทำงานที่มีทั้งความดันสูงและความดันต่ำ และจะต้องมีสารทำความเย็นเข้ามาเกี่ยวข้อง เพื่อเป็นตัวการสำคัญที่จะเปลี่ยนอากาศร้อนให้กลายเป็นอากาศเย็น ตามอุณหภูมิที่ผู้ใช้งานต้องการ
การพัฒนาเทคโนโลยีของคอมเพรสเซอร์แอร์
กระบวนการทำงานของคอมเพรสเซอร์ค่อนข้างเป็นระบบที่แน่นอน และเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการพัฒนามาตั้งแต่ในอดีต ซึ่งในปัจจุบัน ก็มีเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาที่จะทำให้คอมเพรสเซอร์สามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพสูงมากขึ้น ทำความเย็นได้เร็วขึ้น หรือช่วยให้ประหยัดไฟได้มากขึ้นกว่าเดิม
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ยังจำเป็นจะต้องรู้จักวิธีการในการบำรุงรักษาคอมเพรสเซอร์ด้วยเช่นเดียวกัน ถึงจะทำให้คอมเพรสเซอร์แอร์สามารถทำงานได้ทนทานตามที่เราต้องการ
การดูแลรักษา คอมเพรสเซอร์แอร์
ในส่วนของการดูแลรักษาคอมเพรสเซอร์แอร์ ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ เพราะสิ่งนี้จะช่วยทำให้อายุการใช้งานของแอร์ยืดขยายออกไปมากกว่าเดิม ทำให้การทำความเย็นของแอร์ค่อนข้างคงที่ และหมดปัญหาการที่แอร์ไม่เย็น โดยการทำการดูแลรักษาคอมพิวเตอร์แอร์ในลักษณะที่คนทั่วๆ ไปสามารถทำได้ เช่น
1 การหมั่นล้างแอร์อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง รวมไปถึงการเช็คระดับของน้ำยาแอร์ให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสมอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งโดยปกติแล้วช่างแอร์ก็จะมีการตรวจเช็คระดับของน้ำยาแอร์ในช่วงที่มีการล้างแอร์อยู่แล้ว
2 การเปิดแอร์เฉพาะช่วงเวลาที่จำเป็น หรือหลีกเลี่ยงการเปิดแอร์ติดต่อกันนานจนเกินไป เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยทำให้คอมเพรสเซอร์แอร์ไม่ต้องทำงานหนักมากเกินไป เพราะการทำงานแบบไม่หยุดพัก อาจจะทำให้คอมเพรสเซอร์แอร์เสื่อมลงได้เร็วกว่าเดิม
3 การหมั่นตรวจสอบว่าแอร์ของเราทำงานผิดปกติหรือไม่ สังเกตในเรื่องของความเย็นที่ออกมาจากแอร์ รวมไปถึงฟังเสียงดังจากคอมเพรสเซอร์ ว่ามีอะไหล่หรือการทำงานใดๆ ที่ผิดปกติไปจากเดิมบ้างหรือเปล่า
ทั้งหมดนี้ เป็นวิธีการสำคัญที่จะช่วยถนอมคอมเพรสเซอร์แอร์ให้สามารถทำงานได้ดีขึ้นกว่าเดิม หากเรารู้จักการสังเกตแอร์อย่างสม่ำเสมอ ก็จะช่วยทำให้เรารู้ถึงจุดบกพร่องหรือปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างทันเวลา และจะได้แก้ไขปัญหานั้นได้ก่อนที่แอร์ของเราจะเสื่อมสภาพลง
ด้วยความที่เมืองไทยเป็นเมืองร้อน ดังนั้น ตามอาคารต่างๆ หรือบ้านเรือนที่เราอาศัยอยู่ จึงไม่สามารถที่จะปฏิเสธการติดตั้งแอร์ได้เลย แถมบางสถานที่ยังต้องมีการติดตั้งแอร์มากกว่า 1 เครื่อง ซึ่งคงจะดีกว่าหากเราสามารถที่จะถนอมและดูแลรักษาแอร์และคอมเพรสเซอร์แอร์ ให้มีอายุการใช้งานนานๆ เพื่อทำให้เราสามารถที่จะควบคุมค่าไฟ ควบคุมค่าใช้จ่ายในการติดตั้งแอร์ หรือซ่อมแอร์ในแต่ละครั้งได้ด้วย
ยิ่งเราดูแลในส่วนนี้ได้ดีมากเท่าไหร่ ก็จะช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายโดยรวมได้มากเท่านั้น ดังนั้น จึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราควรที่จะเรียนรู้ว่า คอมเพรสเซอร์แอร์คืออะไร และหลีกเลี่ยงการกระทำที่ไม่เหมาะสมทุกประการ
อ่านบทความ น้ำยา R32 คืออะไร ต้องเติมเท่าไหร่ มาทำความรู้จักกัน
อ้างอิง